สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
ผมไม่ได้ขโมยแท็บเล็ตภรรยามาตอบนะครับ วันนี้น้องบอกผมเองว่าให้เข้ามาดูได้
ถ้าเป็นเรื่องตอนเด็กๆผมจะจำได้มากกว่าน้องครับ เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ซ่าน่าดู ถูกคุณนายท่านจับใส่กระโปรงสีชมพูถักเปีย แต่วิ่งเล่นเตะบอลกับพี่ชาย น้องคงไม่รู้ว่าเด็กผู้ชายในกลุ่มเรียกเธอว่า "ยายตัวแถม" เกะกะมากครับ แต่ก็ต้องยอมให้เล่นด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะร้องไห้เสียงดัง พาลไม่ได้เล่นกันทั้งกลุ่ม ส่วนวันที่น้องผลักผมตกท่อก็เพราะผมแกล้งน้องเองครับ สุดท้ายน้องก็โดนท่านตีจนได้
ที่บอกว่าผมชอบเธอตอนขับรถนั่นไปไม่ใช่นะครับ ผมชอบที่เธอขับรถ ดูตลกดี ทำรถผมดับไปตั้งหลายรอบ แต่ก็ไม่ถอดใจ สตาร์ทใหม่ทุกครั้ง ที่จริงผมชอบเธอตั้งแต่วันแรกที่กลับมาเจอกันอีกครั้ง วิ่งเข้ามากอดแม่ผมทั้งๆที่ห่างกันไปเกือบ20ปี จริงๆผมก็อยากให้เขามากอดผมบ้างเหมือนกัน แต่เหมือนแค่ชื่อผมน้องก็ลืมไปแล้ว และอีกครั้งตอนที่ผมกลับมาจากออกกำลังกาย น้องนอนอยู่บนโซฟาที่บ้านผม ตลกมากครับ โซฟาเล็กนิดเดียว หลับสนิท แต่เปิดทีวีเอาไว้ ผมขโมยหอมแก้มน้องไปเป็นครั้งแรก(เรื่องนี้ภรรยาผมไม่รู้นะครับ สงสัยจะรู้พรุ่งนี้เช้านี่ล่ะ) อยากน่ารักทำไม
ถ้าเป็นเรื่องตอนเด็กๆผมจะจำได้มากกว่าน้องครับ เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ซ่าน่าดู ถูกคุณนายท่านจับใส่กระโปรงสีชมพูถักเปีย แต่วิ่งเล่นเตะบอลกับพี่ชาย น้องคงไม่รู้ว่าเด็กผู้ชายในกลุ่มเรียกเธอว่า "ยายตัวแถม" เกะกะมากครับ แต่ก็ต้องยอมให้เล่นด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะร้องไห้เสียงดัง พาลไม่ได้เล่นกันทั้งกลุ่ม ส่วนวันที่น้องผลักผมตกท่อก็เพราะผมแกล้งน้องเองครับ สุดท้ายน้องก็โดนท่านตีจนได้
ที่บอกว่าผมชอบเธอตอนขับรถนั่นไปไม่ใช่นะครับ ผมชอบที่เธอขับรถ ดูตลกดี ทำรถผมดับไปตั้งหลายรอบ แต่ก็ไม่ถอดใจ สตาร์ทใหม่ทุกครั้ง ที่จริงผมชอบเธอตั้งแต่วันแรกที่กลับมาเจอกันอีกครั้ง วิ่งเข้ามากอดแม่ผมทั้งๆที่ห่างกันไปเกือบ20ปี จริงๆผมก็อยากให้เขามากอดผมบ้างเหมือนกัน แต่เหมือนแค่ชื่อผมน้องก็ลืมไปแล้ว และอีกครั้งตอนที่ผมกลับมาจากออกกำลังกาย น้องนอนอยู่บนโซฟาที่บ้านผม ตลกมากครับ โซฟาเล็กนิดเดียว หลับสนิท แต่เปิดทีวีเอาไว้ ผมขโมยหอมแก้มน้องไปเป็นครั้งแรก(เรื่องนี้ภรรยาผมไม่รู้นะครับ สงสัยจะรู้พรุ่งนี้เช้านี่ล่ะ) อยากน่ารักทำไม
ความคิดเห็นที่ 92
ผมขออนุญาตสรุป..ความนัยของกระทู้...ที่ให้ประโยชน์แก่แฟนคลับ..และสาว ๆ ได้ว่า...........
ความเป็นคนที่บริสุทธิ์..ทั้งจิตใจและร่างกาย...เป็นสิ่งมีค่า และควรรักษาไว้ สำหรับคนที่เราคิดว่าจะฝากอนาคตไว้แก่กัน...ไม่ควรพล่าผลาญให้เปลืองเปล่าไปกับคนใด ๆ ที่อารมณ์แห่งความใคร่เรียกหา....เพราะนั่น...คือ การดูหมิ่นตนเองอย่างร้ายกาจ ทั้งยังไม่เคารพในสิ่งที่แสดงคุณค่าตัวเอง..ที่ควรยึดถือ
จริงอยู่...ที่สังคมฯ ในปัจจุบัน จะมีเสียงออกมาในแนวทางที่ว่า " ไม่ซิง " ก็ไม่เป็นไร หรือ "พรหมจรรย์" เป็นแค่เนื้อแยื่อบาง ๆ เท่านั้น ไม่ใช่สิ่งวัดความดี..ที่มีอยู่ของแต่ละฝ่าย....ก็จริงอยู่ แต่ผมเองก็มีความเห็นแย้ง..ในเรื่องนี้เสมอ ๆ และอยากให้สาว ๆ ควรรักษาคุณค่าของสิ่งนั้นเอาไว้ เพราะสิ่งนี้เพียงสิ่งเดียว...มันก็สามารถพิสูจน์..ควรเป็น "คนรักดี สำนึกดี และประพฤติดี" ได้เป็นสิ่งแรกๆ จะเห็นได้ว่า แม้จะไม่ใช่สิ่งที่สังคมและชายทั่วไปในปัจจุบัน..คาดว่าจะได้หรือมีอยู่ก็ตาม แต่ชายฯ ที่ได้ภรรยา..ที่รักษาพรหมจรรย์ไว้จนกระทั่งคืนวันแต่งงานมีครอบครัวอย่างถูกต้องตามประเพณี...เขาภูมิใจในตัวภรรยา..ของเขาแค่ไหน ตัวอย่างจากปากของ "ผู้กองฯ" ย่อมเป็นเครื่องชี้ได้อย่างเด่นชัด โดยไม่ต้องอภิปรายฯ กันไปในสิ่งแตกต่าง นา ๆ
ผมไม่โทษสังคมฯ ในเรื่องนี้..ที่ไม่สนใจในเรื่อง "ความบริสุทธิ์" หรือ "พรหมจรรย์" กันต่อไป สาเหตุที่ไม่สนใจ...ผมเองกลับให้น้ำหนักไปในทางที่ว่า "เพราะทุกวันนี้...มันหายากยิ่งกว่า...โทรศัพท์ตกยุค.." เสียอีก เลยทำให้ไม่มีใครแสวงหาอย่างจริงจังต่อไป
หญิงชายในยุคของโลกดิจิตอลฯ ตั้งแต่วัยเพียงชั้นมัธยมต้น (ม. 1) อายุแค่ 12-13 ปี ก็เรียนรู้จะมีเพศสัมพันธ์ระหว่างกันแล้ว สิ่งนี้มันเกิดจากแรงผลักดันในกิเลสตามธรรมชาติ...ที่ชายและหญิง..ได้เรียนรู้และอยู่ใกล้ชิดกัน..การแสวงหาอยากทดลองในเรื่องเพศ...และปล่อยให้ความไร้สติของตน...ที่ปล่อยให้ความไม่สำนึกรักและเคารพฯ ในบิดา-มารดา ที่เฝ้าเลี้ยงดูมาแต่เด็ก ๆ ด้วยหวังจะให้เป็นคนดี ๆ ของสังคม มาครอบงำความรู้สึกที่เป็นอัตตาฯ ของตน จนยอมให้มีความสัมพันธ์เกินกว่าวัยอันควร และเวลาที่เหมาะสม...อย่างนี้..แล้วจะเหลืออะไร..ที่เรียกว่า "พรหมจรรย์" กันอีกเล่า สิ่งที่คอยย้ำเตือนและทำให้เจ้าของกระทู้รักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้จนถึงวัยและเวลาที่เหมาะสม...เกิดขึ้นจากความเคารพรักในบิดา-มารดา ของตนเองเป็นใหญ่ เกรงกลัวว่าท่านจะเสียใจฯ ซึ่งสิ่งนี้..เป็นกำลังใจให้ประพฤติปฏิบัติตนได้อย่างสมแก่ฐานะของตนเป็นอย่างดี....แต่อย่างไรก็ตาม...ตัวของตัวเอง..ต่างหากล่ะครับ...ที่จะเป็นผู้รักษาตน..ได้เป็นอย่างดี
เรื่องนี้...จะโทษสาวๆ ก็ใช่ที่...หนุ่ม ๆ เองก็มีส่วนเสมอ...เพราะจะอย่างไรก็ตาม...สาวๆ จะเสียพรหมจรรย์..ของตนเอง ด้วยตนเอง ย่อมไม่มีเป็นแน่แท้....ผมเองก็เป็นชาย...ที่มีประสบการณ์และการเรียนรู้ด้วยความเข้าใจในข้อมูลฯ เรื่องเหล่านี้..มามากพอสมควร พวกชายหนุ่มและไม่หนุ่มส่วนใหญ่ฯ จะคอยใช้โอกาส..ในล่อลวงฝ่ายหญิงให้ตกเป็นเหยื่อ ผมเชื่อร้อยทั้งร้อย..ที่ชายมุ่งหวังที่จะปฏิบัติกิจกามกับสาว ๆ ที่ตนปราถนา..เสียตั้งแต่ในครั้งแรก ๆ หรือหลังจากคบหากันไม่นาน....ชายเหล่านั้น....ไม่เคยมีความรักในหญิง..ที่ตนเองมีโอกาสสัมพันธ์ด้วยสักรายเลย หญิงสาวพึงระวังและหลีกให้ไกลๆ พ้นจากชายฯ เหล่านี้ เพราะสิ่งที่เขาต้องการ...คือความเป็นคนเหนือหญิง..ของตน เท่านั้น ชายที่ประพฤติล่วงเกินในทางเพศต่อหญิงในช่วงการคบหาในเวลาไม่นาน....เหตุผล..คือ เขาต้องการพิสูจน์ศักดา..ในการเป็นชาย "คนแรก" ของ "ชายคนต่อไป" ของหญิงคนนั้น เท่านั้น ***คนที่เขารักและปราถนาจะครองคู่กับหญิงที่ตนเองรักอย่างแท้จริง...เขาไม่ทำการล่วงเกินหญิง.."คนที่เขารัก" มากไปกว่าการหอมแก้ม หรือจับมือถือแขนกันเพียงเล็กน้อย***
ผมใคร่ของเตือนสติหญิงสาวและโสด..ที่ยังคงมีอยู่ และบังเอิญได้ผ่านมาอ่านกระทู้ของ "เจ้าสาวติ่งเกาหลี" (ขออนุญาตเจ้าของกระทู้นะครับ) นี้ว่า อย่าใช้ "พรหมจรรย์" เป็นเครื่องพิสูจน์..ความรักของตนที่มีต่อชายที่ตนรัก" เพราะมันจะไม่มีคุณค่าเพียงพอที่จะเหนี่ยวรั้งให้เขาหยุดอยู่ที่ตัวของคุณเอง..แม้สักน้อย ควรรักษา..และหมั่นเคารพรักต่อความรักของบิดา-มารดา..เยี่ยงเจ้าของกระทู้....ย่อมจะทำให้มีความสุข และความสมหวัง..ที่ได้ชายฯ ในดวงใจ..ขอบตนอย่างแท้จริง ***อย่าปล่อยให้ความรัก ความลุ่มหลง และการไม่รักเกียรติศักดิ์ศรีของตน...ทำลายมันไปอย่างไร้ค่า...เพียงเพราะคำว่า "ถ้าไม่ยอมฯ..ก็ไม่รัก" หรือ "ยอมเพื่อ..ให้เขารัก" *** ย่อมไม่มีอยู่จริงในใจของชายคนนั้น ๆ ในฐานะผู้รับฯ เป็นแน่แท้
ด้วยความปราถนาดี..แด่ผู้รักในความดี..ทุกท่าน








ความเป็นคนที่บริสุทธิ์..ทั้งจิตใจและร่างกาย...เป็นสิ่งมีค่า และควรรักษาไว้ สำหรับคนที่เราคิดว่าจะฝากอนาคตไว้แก่กัน...ไม่ควรพล่าผลาญให้เปลืองเปล่าไปกับคนใด ๆ ที่อารมณ์แห่งความใคร่เรียกหา....เพราะนั่น...คือ การดูหมิ่นตนเองอย่างร้ายกาจ ทั้งยังไม่เคารพในสิ่งที่แสดงคุณค่าตัวเอง..ที่ควรยึดถือ
จริงอยู่...ที่สังคมฯ ในปัจจุบัน จะมีเสียงออกมาในแนวทางที่ว่า " ไม่ซิง " ก็ไม่เป็นไร หรือ "พรหมจรรย์" เป็นแค่เนื้อแยื่อบาง ๆ เท่านั้น ไม่ใช่สิ่งวัดความดี..ที่มีอยู่ของแต่ละฝ่าย....ก็จริงอยู่ แต่ผมเองก็มีความเห็นแย้ง..ในเรื่องนี้เสมอ ๆ และอยากให้สาว ๆ ควรรักษาคุณค่าของสิ่งนั้นเอาไว้ เพราะสิ่งนี้เพียงสิ่งเดียว...มันก็สามารถพิสูจน์..ควรเป็น "คนรักดี สำนึกดี และประพฤติดี" ได้เป็นสิ่งแรกๆ จะเห็นได้ว่า แม้จะไม่ใช่สิ่งที่สังคมและชายทั่วไปในปัจจุบัน..คาดว่าจะได้หรือมีอยู่ก็ตาม แต่ชายฯ ที่ได้ภรรยา..ที่รักษาพรหมจรรย์ไว้จนกระทั่งคืนวันแต่งงานมีครอบครัวอย่างถูกต้องตามประเพณี...เขาภูมิใจในตัวภรรยา..ของเขาแค่ไหน ตัวอย่างจากปากของ "ผู้กองฯ" ย่อมเป็นเครื่องชี้ได้อย่างเด่นชัด โดยไม่ต้องอภิปรายฯ กันไปในสิ่งแตกต่าง นา ๆ
ผมไม่โทษสังคมฯ ในเรื่องนี้..ที่ไม่สนใจในเรื่อง "ความบริสุทธิ์" หรือ "พรหมจรรย์" กันต่อไป สาเหตุที่ไม่สนใจ...ผมเองกลับให้น้ำหนักไปในทางที่ว่า "เพราะทุกวันนี้...มันหายากยิ่งกว่า...โทรศัพท์ตกยุค.." เสียอีก เลยทำให้ไม่มีใครแสวงหาอย่างจริงจังต่อไป
หญิงชายในยุคของโลกดิจิตอลฯ ตั้งแต่วัยเพียงชั้นมัธยมต้น (ม. 1) อายุแค่ 12-13 ปี ก็เรียนรู้จะมีเพศสัมพันธ์ระหว่างกันแล้ว สิ่งนี้มันเกิดจากแรงผลักดันในกิเลสตามธรรมชาติ...ที่ชายและหญิง..ได้เรียนรู้และอยู่ใกล้ชิดกัน..การแสวงหาอยากทดลองในเรื่องเพศ...และปล่อยให้ความไร้สติของตน...ที่ปล่อยให้ความไม่สำนึกรักและเคารพฯ ในบิดา-มารดา ที่เฝ้าเลี้ยงดูมาแต่เด็ก ๆ ด้วยหวังจะให้เป็นคนดี ๆ ของสังคม มาครอบงำความรู้สึกที่เป็นอัตตาฯ ของตน จนยอมให้มีความสัมพันธ์เกินกว่าวัยอันควร และเวลาที่เหมาะสม...อย่างนี้..แล้วจะเหลืออะไร..ที่เรียกว่า "พรหมจรรย์" กันอีกเล่า สิ่งที่คอยย้ำเตือนและทำให้เจ้าของกระทู้รักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้จนถึงวัยและเวลาที่เหมาะสม...เกิดขึ้นจากความเคารพรักในบิดา-มารดา ของตนเองเป็นใหญ่ เกรงกลัวว่าท่านจะเสียใจฯ ซึ่งสิ่งนี้..เป็นกำลังใจให้ประพฤติปฏิบัติตนได้อย่างสมแก่ฐานะของตนเป็นอย่างดี....แต่อย่างไรก็ตาม...ตัวของตัวเอง..ต่างหากล่ะครับ...ที่จะเป็นผู้รักษาตน..ได้เป็นอย่างดี
เรื่องนี้...จะโทษสาวๆ ก็ใช่ที่...หนุ่ม ๆ เองก็มีส่วนเสมอ...เพราะจะอย่างไรก็ตาม...สาวๆ จะเสียพรหมจรรย์..ของตนเอง ด้วยตนเอง ย่อมไม่มีเป็นแน่แท้....ผมเองก็เป็นชาย...ที่มีประสบการณ์และการเรียนรู้ด้วยความเข้าใจในข้อมูลฯ เรื่องเหล่านี้..มามากพอสมควร พวกชายหนุ่มและไม่หนุ่มส่วนใหญ่ฯ จะคอยใช้โอกาส..ในล่อลวงฝ่ายหญิงให้ตกเป็นเหยื่อ ผมเชื่อร้อยทั้งร้อย..ที่ชายมุ่งหวังที่จะปฏิบัติกิจกามกับสาว ๆ ที่ตนปราถนา..เสียตั้งแต่ในครั้งแรก ๆ หรือหลังจากคบหากันไม่นาน....ชายเหล่านั้น....ไม่เคยมีความรักในหญิง..ที่ตนเองมีโอกาสสัมพันธ์ด้วยสักรายเลย หญิงสาวพึงระวังและหลีกให้ไกลๆ พ้นจากชายฯ เหล่านี้ เพราะสิ่งที่เขาต้องการ...คือความเป็นคนเหนือหญิง..ของตน เท่านั้น ชายที่ประพฤติล่วงเกินในทางเพศต่อหญิงในช่วงการคบหาในเวลาไม่นาน....เหตุผล..คือ เขาต้องการพิสูจน์ศักดา..ในการเป็นชาย "คนแรก" ของ "ชายคนต่อไป" ของหญิงคนนั้น เท่านั้น ***คนที่เขารักและปราถนาจะครองคู่กับหญิงที่ตนเองรักอย่างแท้จริง...เขาไม่ทำการล่วงเกินหญิง.."คนที่เขารัก" มากไปกว่าการหอมแก้ม หรือจับมือถือแขนกันเพียงเล็กน้อย***
ผมใคร่ของเตือนสติหญิงสาวและโสด..ที่ยังคงมีอยู่ และบังเอิญได้ผ่านมาอ่านกระทู้ของ "เจ้าสาวติ่งเกาหลี" (ขออนุญาตเจ้าของกระทู้นะครับ) นี้ว่า อย่าใช้ "พรหมจรรย์" เป็นเครื่องพิสูจน์..ความรักของตนที่มีต่อชายที่ตนรัก" เพราะมันจะไม่มีคุณค่าเพียงพอที่จะเหนี่ยวรั้งให้เขาหยุดอยู่ที่ตัวของคุณเอง..แม้สักน้อย ควรรักษา..และหมั่นเคารพรักต่อความรักของบิดา-มารดา..เยี่ยงเจ้าของกระทู้....ย่อมจะทำให้มีความสุข และความสมหวัง..ที่ได้ชายฯ ในดวงใจ..ขอบตนอย่างแท้จริง ***อย่าปล่อยให้ความรัก ความลุ่มหลง และการไม่รักเกียรติศักดิ์ศรีของตน...ทำลายมันไปอย่างไร้ค่า...เพียงเพราะคำว่า "ถ้าไม่ยอมฯ..ก็ไม่รัก" หรือ "ยอมเพื่อ..ให้เขารัก" *** ย่อมไม่มีอยู่จริงในใจของชายคนนั้น ๆ ในฐานะผู้รับฯ เป็นแน่แท้
ด้วยความปราถนาดี..แด่ผู้รักในความดี..ทุกท่าน









ความคิดเห็นที่ 128
หลังจากที่ภรรยาหลับสนิทได้สักพักแล้ว ผมรู้สึกสงสัยว่าทำไมภรรยาถึงกับร้องไห้จนตาบวม น้องแค่เล่าให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ได้เอาสิ่งที่คนพวกนั้นแชร์ให้ผมดู เมื่อสักครู่ผมได้ดูแล้ว รู้สึกแย่แทนน้องมากๆ ใช้ถ้อยคำที่หยาบคายสำหรับผู้ชายอย่างผมก็ยังพอทน แต่ผมทนไม่ได้เมื่อเปิดเข้าไปแล้วเห็นบุคลากรทางการแพทย์ท่านหนึ่งวิจารณ์ว่าเรื่องราวของเราในกระทู้ที่สองเหมือนไลฟ์โนเวลเล่มละ99บาท และหนักใจที่คนอย่างผมและภรรยาจะผลิตทายาทออกมาอีก หนักใจและกังวลว่าเราสองคนจะสอนลูกของเราให้ไปในทิศทางไหน ภรรยาผมอาจจะใสซื่อเกินอายุไปบ้างเนื่องจากการเลี้ยงดูจากครอบครัวที่ค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งหายากมากแล้วในสมัยนี้ และผมเองคงจะอ่อนเกินไปในสายตาพวกเขา ผมรู้สึกโกรธมากครับ ผมยอมรับ แต่ผมรู้สึกสงสารภรรยาในอนาคตของทันตแพทย์ผู้นี้มากกว่า
ผมจึงขอลบข้อความในกระทู้ที่สอง และแจ้งลบกระทู้แรกของภรรยานะครับ ปกติภรรยาผมไม่เคยโพสต์อะไรในพันทิป น้องจะเข้าไปดูโต๊ะเครื่องแป้งเสียเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนี้ผมคงต้องคุยกับน้องว่าคงต้องเลิกโพสต์ในพันทิปแล้วจริงๆ และอาจจะไปทำเป็นบล็อกอย่างที่มีบางท่านหลังไมค์มาบอก
ขอบคุณมากครับสำหรับมิตรภาพดีๆที่หยิบยื่น ผมและภรรยาจะไม่ลืมทุกคนเลย
ผมจึงขอลบข้อความในกระทู้ที่สอง และแจ้งลบกระทู้แรกของภรรยานะครับ ปกติภรรยาผมไม่เคยโพสต์อะไรในพันทิป น้องจะเข้าไปดูโต๊ะเครื่องแป้งเสียเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนี้ผมคงต้องคุยกับน้องว่าคงต้องเลิกโพสต์ในพันทิปแล้วจริงๆ และอาจจะไปทำเป็นบล็อกอย่างที่มีบางท่านหลังไมค์มาบอก
ขอบคุณมากครับสำหรับมิตรภาพดีๆที่หยิบยื่น ผมและภรรยาจะไม่ลืมทุกคนเลย
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ภาคต่อที่มาที่ไป
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ